🌟 [ 263 ]   MSTR รายงานงบ Q2/64 มีขาดทุนด้อยค่าจากการถือบิตคอยน์ 1.4 หมื่นลบ.- ซีอีโอยังคงมั่นใจมาถูกทาง เดินหน้าซื้อเพิ่มตามแผนกลยุ... [ @ ]

🔥 Hot 🎮 เกม 🖥 สปอย ⭐️ ฝัน 👉 ดวง 🌈 หวย

---- ถ้าน่าสนใจ แชร์หน้านี้ให้เพื่อนๆดูบ้างสิ คลิกปุ่มด้านล่างนี้เพื่อแชร์ค่ะ :) --

[🔥 ช่วยดันขึ้นฟีดยูทูปและเพิ่มยอดวิวให้คลิปของท่าน โปรโมทช่องยูทูป คลิก ]
MSTR รายงานงบ Q2/64 มีขาดทุนด้อยค่าจากการถือบิตคอยน์ 1.4 หมื่นลบ.-
ซีอีโอยังคงมั่นใจมาถูกทาง เดินหน้าซื้อเพิ่มตามแผนกลยุทธ์เดิม https://www.facebook.com/cryptobyefinancethai/posts/147033680884206MSTR รายงานงบ Q2/64 มีขาดทุนด้อยค่าจากการถือบิตคอยน์ 1.4 หมื่นลบ.-
ซีอีโอยังคงมั่นใจมาถูกทาง เดินหน้าซื้อเพิ่มตามแผนกลยุทธ์เดิม ════════════════ MicroStrate...gy บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ยังให้คำมั่นว่าบริษัทจะยังคงซื้อบิตคอยน์มากขึ้นไปอีก แม้งบไตรมาส 2/2564 จะมีขาดทุนทางบัญชีจากการถือครองบิตคอยน์ 424.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.39 หมื่นลบ.) รวมขาดทุนสะสมจากการด้อยค่าถือครองบิตคอยน์ 689.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.26 หมื่นลบ.) . บริษัท MicroStrategy (Nasdaq:MSTR) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ถือครอง 105,085 BTC โดยมีมูลค่าตามบัญชี 2.051 พันล้านดอลลาร์ มีขาดทุนจากการด้อยค่าสะสมรวม 689.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.26 หมื่นลบ.) นับตั้งแต่ได้มาซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว มูลค่าตามบัญชีเฉลี่ยต่อบิตคอยน์อยู่ที่ประมาณ 19,518 ดอลลาร์ . ทั้งนี้ นับตั้งแต่ได้มาซึ่งบิตคอยน์ในไตรมาส 3/2563 บริษัทเริ่มมีผลขาดทุนจากการด้อยค่า (Digital asset impairment losses) ทุกไตรมาส เริ่มจากไตรมาส 3/2563 ขาดทุนจำนวน 44.2 ล้านดอลลาร์, ไตรมาส 4/2563 จำนวน 26.5 ล้านดอลลาร์ ,ไตรมาส 1/2564 จำนวน 194.1 ล้านดอลลาร์ . ล่าสุดไตรมาส 2/2564 ถึงแม้ว่าจะมีผลประกอบการที่สร้างกำไรอยู่บ้างในหัวข้อการลงทุนอื่นๆ ที่ไม่ใช่บิตคอยน์ แต่ในหัวข้อของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน หัวข้อนี้ก็ได้รวมไปถึง ‘การขาดทุนจากสินทรัพย์ดิจิทัล’อยู่ด้วย ทำให้รายงานนี้สรุปเป็นการขาดทุนในไตรมาส 2/2564 รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 424.8 ล้านดอลลาร์ . อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการขาดทุนในทางบัญชี ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาของบิตคอยน์ ณ สิ้นไตรมาสและไม่ได้สะท้อนถึงการขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง เพราะบริษัทยังไม่ได้ขายไปแม้แต่ BTC เดียว ดังนั้น ก็หมายความว่าการขาดทุนครั้งนี้ยังถือว่าเป็น Unrealized อยู่ . นอกจากนี้ การขาดทุนใน Q2 นี้ก็ไม่ได้ทำให้ซีอีโอและผู้ก่อตั้งอย่าง นายไมเคิล เซย์เลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MicroStrategy ถอดใจจากการยุทธศาสตร์การลงทุนในบิตคอยน์แต่อย่างใด . เรายังคงพึงพอใจกับผลลัพธ์จากยุทธศาสตร์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ และการขยายเงินทุนครั้งล่าสุดของเรา ก็ทำให้เราสามารถเพิ่มสินทรัพย์ดิจิทัลให้มากขึ้นไปอีก ซึ่งในตอนนี้เรามีมากกว่า 105,000 BTC ไปแล้ว และเราก็จะยังคงเดินหน้าเพิ่มเงินทุนสำหรับยุทธศาสตร์สินทรัพย์ดิจิทัลของเราต่อไป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุในรายงานผลประกอบการ ไตรมาส 2/2564 . เมื่อต้นสัปดาห์นี้ บริษัทเทสลา ของอีลอนมัสก์ ได้เผยแพร่รายงานไตรมาสที่ 2/2564 ซึ่งแสดงการขาดทุนจากการด้อยค่า 23 ล้านดอลลาร์จากการถือครองบิตคอยน์ . เนื่องจากทั้งสองบริษัทจัดประเภท บิตคอยน์ เป็น สินทรัพย์ไม่มีตัวตน กฎการบัญชีกำหนดให้ ต้องรายงานผลขาดทุนจากการด้อยค่าเมื่อราคาของสินทรัพย์ลดลงต่ำกว่าต้นทุน อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องรายงานการเพิ่มขึ้นของราคาสินทรัพย์ จนกว่าจะมีการขายสินทรัพย์นั้นเกิดขึ้น . MicroStrategy มีรายรับรวมในไตรมาสที่ 2/2564 อยู่ที่ 125.4 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรขั้นต้น 102.3 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 81.6% เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 78.3% . ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 516.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 543.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 โดยเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้รวมผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาด้วย . โดยสรุป MicroStrategy มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 2/2564 จำนวน 299.3 ล้านดอลลาร์ เทียบกับกำไร 3.4 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว . เซย์เลอร์ และบริษัท MicroStrategy ดูเหมือนจะทุ่มสุดตัวในบิตคอยน์ และยังคงสะสมสินทรัพย์นี้ต่อไป แม้ว่าตลาดคริปโทจะตกต่ำซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากกลยุทธ์ของบริษัทฯ คือการถือครองสินทรัพย์ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ซีอีโอ MicroStrategy ระบุว่าหากราคาของบิตคอยน์ในอีก 4 ปีนับจากนี้ต่ำกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เขาจะพิจารณากลยุทธ์อีกครั้ง . อนึ่ง MicroStrategy เริ่มต้นซื้อบิตคอยน์ในเดือนสิงหาคม 2563 การซื้อครั้งแรกในครั้งนั้นก็เกิดขึ้นหลังจากการศึกษาวิจัยเพื่อค้นหาสินทรัพย์ที่เหมาะสม ในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจสูง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทางบริษัทก็ค้นหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะซื้อมันเพิ่มมาตลอด จากการซื้อครั้งละน้อยๆ ครั้งละประมาณ 10 ล้านดอลลาร์ ไปจนถึงมูลค่ามหาศาลกว่าพันล้านดอลลาร์ในครั้งเดียว . โดยทาง MicroStrategy และ นายไมเคิล เซย์เลอร์เอง ก็ได้สร้างกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ขึ้นมาอยู่เสมอ อย่างเช่น การจ่ายเงินให้ผู้บริหารที่ไม่ใช่พนักงาน เป็นคริปโทเคอร์เรนซี เพราะบิตคอยน์นั้นก็ถือว่าเป็นสินทรัพย์สำรองของบริษัท ตั้งแต่ทางบริษัทได้เริ่มซื้อ BTC เป็นครั้งแรก . แปล : พงศภัค รจนา เรียบเรียง : ชัชชญา อังคุลี . ที่มา : https://cointelegraph.com/…/microstrategy-pledges-to-buy-mo… https://cryptopotato.com/microstrategy-to-buy-more-bitcoin-… https://www.microstrategy.com/…/microstrategy-announces-sec… https://www.microstrategy.com/…/Q2-2021_microstrategy-earni… ⚠️การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน 🤗ติดตามสรุปประเด็นข่าว Crypto และ Fintech >> https://bit.ly/3oC4Zbg 🤗ติดตามบทความ Crypto และ Fintech จากกูรูในวงการ >> https://bit.ly/3bDhBJB #crypto #efinancethai #fintech #bitcoin #blockchain #efin #สินทรัพย์ดิจิทัล สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย “มีข่าวมีโอกาส” www.efinancethai.com





ขอบคุณข่าวสารจากเพจ efinanceThai
ดูรายละเอียดคลิก >> คลิกเพื่อเข้าชม